นโยบายความเป็นส่วนตัว
เนื่องด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์พหลโยธิน จำกัด (“บริษัท”) ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)(“ธนาคาร”) ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะ (1) บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น เคยเป็น หรืออาจเป็นลูกค้าของบริษัทต่อไป หรือ (2) บุคคลนอกจากที่ระบุในข้อ (1) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง พนักงาน ผู้สมัครงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ติดต่อ ผู้ให้บริการภายนอก บุคคลทั่วไปที่เข้ามาในสำนักงานของบริษัท หรือ เว็บไซต์ของบริษัท ตัวแทน ผู้ถือหุ้น กรรมการ หรือบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ดังนั้น บริษัทจึงใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงและขั้นตอนการดำเนินงานที่เข้มงวดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ให้ถูกเข้าถึง นำไปใช้ เปลี่ยนแปลง หรือ เปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเจตนาไม่สุจริตที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย เปลี่ยนแปลง หรือสูญหายของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อชี้แจงให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบว่า บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใด และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ใคร รวมถึงการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ โดยแสดงรายละเอียดในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนชี้แจงสิทธิของท่านตามกฎหมายให้ท่านทราบ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย
“ข้อมูลส่วนบุคคล” ตามกฎหมายหมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่สามารถระบุตัวตนท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม) ทั้งที่บริษัทได้รับจากท่านโดยตรง หรือได้รับมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์, กรมการปกครอง, กระทรวงมหาดไทย, กรมการกงสุล, กระทรวงการต่างประเทศ, กรมบังคับคดี และบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงธนาคาร บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร หรือ สถาบันการเงินอื่น เป็นต้น
ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ในการทำธุรกรรมกับบริษัท หรือในกรณีอื่นใด บริษัทขอให้ท่านแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามนโยบายฉบับนี้ด้วยและได้รับความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นหากจำเป็น หรือกำหนดฐานทางกฎหมายอื่น เพื่อให้แน่ใจว่าธนาคารสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวได้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ บุคคลดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยตามนโยบายฉบับนี้มีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลทั้งสองประเภทรวมกันว่า “ข้อมูล” โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ได้แก่
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน และมีความเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสหภาพแรงงาน ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม หรือ ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลเครดิต (NCB) ข้อมูลทางชีวภาพเพื่อใช้ในการพิสูจน์หรือตรวจสอบตัวตน (Biometric Information) เช่น ข้อมูลแบบจำลองลายพิมพ์นิ้วมือ (finger print) ข้อมูลแบบจำลองใบหน้า (facial recognition) ข้อมูลสแกนม่านตา (iris scan) หรือ ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง (voice recognition) เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป บริษัท มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมีรายละเอียด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้
ข้อมูลแสดงตัวตน สถานะ | ข้อมูลในการติดต่อ | ข้อมูลผลิตภัณฑ์และข้อมูลอื่น ๆ |
---|---|---|
|
|
|
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับ
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจาก
วัตถุประสงค์ที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและเหตุผล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากท่านอย่างชัดแจ้ง หรือเป็นการทำธุรกรรมตามที่ระบุเงื่อนไขการให้บริการตามสัญญา หรือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งของหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือการใช้สิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
ประเภทธุรกิจของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัท | รายละเอียด |
---|---|
บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร | เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคาร เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือตามความยินยอมของท่านภายใต้นโยบายฉบับนี้ (อ้างอิง โครงสร้างกลุ่มธุรกิจ https://www.ttbbank.com/th/about-us/corporate-group-structure) |
บุคคลภายนอกที่เป็นคู่สัญญากับบริษัท หรือผู้ให้บริการ/ผู้รับจ้างภายนอกของบริษัท | บริษัท อาจมีการว่าจ้าง หรือทำสัญญากับบุคคลภายนอก เช่น บริษัทอื่น คู่ค้า ตัวแทนของบริษัท ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ หรือผู้ให้บริการภายนอก เพื่อดำเนินการแทนบริษัท หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมและ/หรือบริการของบริษัท แก่ท่าน ด้วยเหตุนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการของบริษัท เช่น
|
ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิ และ / หรือ ผู้รับโอนสิทธิในธุรกรรมหรือการควบรวมกิจการต่างๆ ของธนาคาร | ในกรณีที่บริษัท มีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ปรับโครงสร้างหนี้ การควบรวมกิจการ การโอนสิทธิ การเลิกกิจการ หรือเหตุการณ์อื่นใดในลักษณะเดียวกันนั้น บริษัท อาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง
|
หน่วยงานราชการและหน่วยงานกำกับดูแล | เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายหรือเกณฑ์ทางการ บริษัท มีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่
|
ที่ปรึกษา/ ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบประกอบวิชาชีพ | เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง
|
บริษัทพันธมิตรและบริษัทคู่ค้าของบริษัท | เพื่อประโยชน์สูงสุดของท่านในการทำธุรกรรมกับบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่
|
บริษัทมีการใช้คุกกี้เพื่อประโยชน์ในการช่วยให้เว็บไซต์สามารถจดจำการตั้งค่าต่าง ๆ บนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ทำให้การทำงานของเว็บไซต์มีประสิทธิภาพ และเพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้เว็บไซต์ให้มีประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น
บริษัทจะมีการเก็บคุกกี้ต่าง ๆ ตามลักษณะการใช้งาน เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
บริษัทยังมีการขออนุญาตผู้ใช้งานเพื่อเก็บคุกกี้เพื่อการกำหนดเป้าหมายทางการตลาด (Targeting & Advertising Cookies) ซึ่งคุกกี้ดังกล่าวจะบันทึกข้อมูลการใช้งานบนเว็บไซต์ เพื่อใช้ในการนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้อง และสิทธิประโยชน์ที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด โดยท่านสามารถกดปุ่ม ‘อนุญาต’ โดยสมัครใจบนหน้าต่างให้ความยินยอมของเว็บไซต์ เพื่อให้บริษัทเก็บคุกกี้ประเภทนี้เพิ่มเติมได้ หากไม่ยินยอมให้เก็บคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้อาจทำให้ท่านได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
ท่านสามารถลบคุกกี้เพื่อการกำหนดเป้าหมายทางการตลาด (Targeting & Advertising Cookies) สำหรับเว็บไซต์ pamco.co.th และ property.pamco.co.th ได้ โดยการคลิกที่นี่
นโยบายความเป็นส่วนตัวของพนักงาน
บริษัทได้ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ซึ่งมีการอธิบายหลักการของการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีรายละเอียดดังนี้ https://www.ttbbank.com/th/policy/candidate
มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
บริษัทได้กำหนดนโยบาย คู่มือและมาตรฐานขั้นต่ำในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (Administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือนโยบายการรักษาข้อมูลความลับของท่าน เป็นต้น โดยบริษัท มีการปรับปรุงนโยบาย คู่มือและมาตรฐานขั้นต่ำดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และกำหนดให้พนักงาน ลูกจ้าง และผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามข้อตกลงรักษาความลับที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ในกรณีที่บริษัท มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจของบริษัท ยกตัวอย่างเช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บนแพลตฟอร์ม หรือคลาวด์ (Cloud) หรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เป็นต้น หากประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย บริษัท จะใช้มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็น มีความเหมาะสม สอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับและมีความปลอดภัยเป็นไปตามกฎหมายกำหนด เช่น กำหนดให้มีข้อตกลงกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าวเพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย เป็นต้น
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในการขอให้บริษัท ดำเนินการตามที่ร้องขอ ดังนี้
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์เพื่อใช้สิทธิของท่านได้
ท่านมีสิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่กับบริษัท และสำเนาการให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและการให้ความยินยอมเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดฉบับล่าสุดของท่านที่ให้ไว้กับบริษัท รวมถึงการขอให้บริษัท เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลจากแหล่งอื่น
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านจากบริษัท ในรูปแบบ PDF (มาตรฐาน) โดยบริษัท จะส่งมอบให้กับท่านโดยตรงไปยังช่องทางที่ท่านได้แจ้งไว้กับบริษัท
ในกรณีท่านขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น บริษัทจะดำเนินการเฉพาะข้อมูลที่มาจากการที่ท่านให้ข้อมูลแก่บริษัทโดยตรง หรือมาจากตัวแทนที่สามารถกระทำการแทนได้ตามกฎหมาย แต่จะไม่ครอบคลุมข้อมูลภายในที่บริษัทได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการภายในองค์กรและกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารที่เป็นไปตามกฎหมายกำหนดและเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดต่อทรัพย์สิน บุคลากรและชื่อเสียงของบริษัท เป็นต้น
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลว่าเป็นท่านได้ ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามข้อบังคับของกฎหมายโดยสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่เก็บข้อมูลตามความจำเป็นเท่านั้น หรือ เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่บริษัท อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอ หรือท่านเปลี่ยนใจขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบออกจากระบบการจัดเก็บของบริษัท เมื่อพ้นระยะเวลาการจัดเก็บเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่บริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายลำดับรอง กฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีสิทธิที่จะปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านได้ หากคำขอนั้นขัดกับกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือเป็นคำขอที่ไม่ระบุเหตุผลอันควร หรือบริษัท มีข้อจำกัดทางเทคนิคที่ไม่สามารถดำเนินการตามคำขอได้ โดยบริษัท มีหน้าที่แจ้งให้ท่านทราบเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเหตุผลของการปฏิเสธนั้น
ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยมีการกำหนดเป็นนโยบาย คู่มือต่าง ๆ ในเรื่องการจัดเก็บ การทำลายเอกสารต่าง ๆ ของบริษัท และมีการปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเคร่งครัด
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ตามวัตถุประสงค์เดิมที่ท่านเคยได้ให้แก่บริษัท หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยที่คำขอนั้นไม่ขัดต่อกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลอื่น ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านตามช่องทางของบริษัทเมื่อใดก็ได้
ติดต่อบริษัท
ท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามช่องทาง ดังต่อไปนี้
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | ช่องทางในการใช้สิทธิ | |||
---|---|---|---|---|
สาขาของธนาคาร | Contact Center/AO | DPO email | Website | |
1. สิทธิการร้องเรียนกรณีข้อมูลรั่วไหล | ⬤ | ⬤ | - | ⬤ |
2. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลที่ผิดอยู่ให้ถูกต้อง | ⬤ | ⬤ | - | - |
3. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลและขอสำเนา (กรอกแบบฟอร์ม)* | ⬤ | - | ⬤ | - |
4. สิทธิในการโอนข้อมูล (กรอกแบบฟอร์ม)* | ⬤ | - | ⬤ | ⬤ |
5. สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลรวมถึงเมื่อถูกใช้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (กรอกแบบฟอร์ม)* | ⬤ | - | ⬤ | ⬤ |
6. สิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูลชั่วคราว (กรอกแบบฟอร์ม)* | ⬤ | - | ⬤ | ⬤ |
หมายเหตุ การใช้สิทธิในข้อ 3-6 ท่านจะต้องกรอกแบบฟอร์มและส่งคำขอใช้สิทธิต่อ DPO ที่ dpo@pamco.co.th หรือส่งจดหมายมาที่ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เลขที่ 3000 ตึกธนาคารทหารไทยธนชาต สำนักงานใหญ่ ชั้น 22 เอ ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หรือ PAMCO contact center ที่ 02-617-4069-70 เพื่อพิจารณาในการใช้สิทธิดังกล่าว โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 30 (สามสิบ) วัน นับตั้งแต่วันที่ DPO ได้รับข้อมูลครบถ้วนและเพียงพอต่อการพิจารณาการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ช่องทางการติดต่อ DPO บริษัท
ทั้งนี้ บริษัทอาจทบทวน หรือ แก้ไข/ปรับปรุง นโยบายฉบับนี้ เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายลำดับรอง ข้อบังคับ ประกาศของหน่วยงานราชการที่ออกมาใหม่ หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะประกาศ ณ สำนักงานของบริษัท หรือเผยแพร่ในเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ที่มีผลใช้บังคับโดยเร็วที่สุด
ฉบับเดือน [กุมภาพันธ์ 2566]